.jpg)
รวดเร็วดุจสายฟ้าฟาด หนักหน่วงปานภูผาถล่มทลาย คือปฏิบัตการปลด เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมพลางแต่งตั้ง โชเซ่ มูรินโญ่ เป็นกุนซือคนใหม่ของสโมสรฟุตบอล ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์
มันช่างฉับพลัน และสร้างความสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นประหนึ่งอุกาบาตพุ่งชนโลกสำหรับปฏิบัติการครั้งนี้จนสามารถมองออกได้ง่ายๆ ด้วยตาเปล่าว่าพวกเขาเตรียมการทุกอย่างเอาไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว UFA369
เพียงรอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา เวลาประมาณ 3 ทุ่มที่อังกฤษ
สเปอร์ส ประกาศปลดกุนซือชาวอาร์เจนติน่าออกจากตำแหน่ง
แล้วเวลาประมาณ 7 โมงเช้าของวันพุธที่ผ่านมาก็ประกาศการสถาปนากุนซือจอมอหังการเข้ารับตำแหน่งแบบเป็นทางการ ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่ามันมีการตกลงกันเอาไว้ก่อน…นี่หว่า !!!
ขอบอกว่านี่คือผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดของคลับไก่ในรอบ 20 ปีเลยทีเดียว แม้ตลอดระยะเวลาประมาณ 5 ปีที่คุมทีมสีขาวแห่งลอนดอนตอนเหนือ พวกเขาจะไม่เคยประสบความสำเร็จในรูปแบบของถ้วยรางวัลเลยสักครั้งก็ตาม
กุนซือที่มีชื่อเล่นว่า “พอช” เสกให้ สเปอร์ส กลายเป็นทีมที่เล่นเกมรุกอย่างเกรี้ยวกราดสร้างความบันเทิงให้ท่านผู้พบเห็นพลางกลายร่างเป็นทีมระดับแถวหน้าของพรีเมียร์ลีกที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
ฤดูกาล 2015-16 ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ฤดูกาล 2018-19 ทะลุเข้าชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
นอกจากนี้ยังจบฤดูกาลด้วยอันดับที่สูงกว่าคู่แค้นระดับฆ่าล้างโคตรของตัวเองถึง 3 ฤดูกาลติดต่อกัน
ทั้งหมดนี้คือเกียรติประวัติและความสำเร็จของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ แม้นจะไม่มีถ้วยรางวัลแบบเป็นรูปธรรมมายืนยันความสามารถ
คิดถึงเรื่องนี้แล้วก็อยากหัวเราะออกมาเป็นภาษามอนเตเนโกร เพราะมันช่างย้อนแย้งกับความจริงที่บังเกิดขึ้นเหลือเกิน
คือนับตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมา สเปอร์ส ต้องคว้าแชมป์รายการใหญ่ได้อย่างน้อย 1 ครั้งในรอบทศวรรษ
1950-1960: แชมป์ลีกสูงสุด 1 สมัย
1960-1970: แชมป์ลีกสูงสุด 1 สมัย, แชมป์ เอฟเอ คัพ 3 สมัย, แชมป์ คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย
1970-1980: แชมป์ลีก คัพ 2 สมัย, แชมป์ ยูฟ่า คัพ 1 สมัย
1980-1990: แชมป์ เอฟเอ คัพ 2 สมัย, แชมป์ ยูฟ่า คัพ 1 สมัย
1990-2000: แชมป์ เอฟเอ คัพ 1 สมัย, แชมป์ ลีก คัพ 1 สมัย
2000-2010: แชมป์ ลีก คัพ 1 สมัย
2010-2020: เหลือเวลาอีกแค่เดือนเศษๆ เท่านั้นก็จะครบทศวรรษ โดยเป็นที่แน่นอนแล้วว่า สเปอร์ส จะไม่ได้แชมป์ใดๆ ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ 1950
ทว่าในยุคที่มีผู้จัดการทีมอย่าง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ นี่แหละที่ สเปอร์ส เกือบได้แชมป์พรีเมียร์ลีก และผ่านเข้าชิงชนะเลิศถ้วยใหญ่ยุโรปได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในวงเล็บว่า (ทั้งที่ไม่ได้ใช้เงินซื้อผู้เล่นใหม่มาเสริมทัพเลยสักคนเดียว) แถมยังได้ยักคิ้วใส่คู่อริร่วมละแวกอย่างเย้ยหยันอีกต่างหาก
เปรียบไปก็เสมือนราชันที่ไร้บัลลังก์
เมื่อพุ่งทะยานเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว หลังจากนั้นระหว่าง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กับ สเปอร์ส ก็เหมือนจะเจอทางตัน
ทางตันที่ไปต่อไม่ได้ ยิ่งฝืนก็ยิ่งโดนอัดจนกระเด้งกลับหลัง
ผู้เล่นตกอยู่ในอาการตายซาก ดาวเตะสำคัญหลายคนไม่ยอมต่อสัญญา เพราะอยากย้ายทีม แน่นอนว่าเหตุผลหนึ่งคือต้องการความสำเร็จแบบเป็นรูปธรรม ซึ่งคะเนดูแล้ว สเปอร์ส คงให้พวกเขาไม่ได้
ความตกต่ำมาเยือนอย่างรวดเร็ว
ฤดูกาลนี้ สเปอร์ส เพิ่งยัดเยียดความปราชัยให้คู่แข่งในพรีเมียร์ลีกได้เพียงแค่ 3 นัดเท่านั้น ปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 14ของตาราง
ภาษากายที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ แสดงออกมาในการคุมทีม รวมถึงการจัดทัพแบบแปลกๆ ในแต่ละนัด มันบ่งว่า “กูไม่อยากอยู่แล้ว”
ครั้นจะลาออกก็ไม่ได้เงินชดเชย ขณะที่เบื้องบนก็ไม่มีทีท่าว่าจะไล่ เพราะนอกจากไม่อยากจะจ่ายเสียหายในการฉีกสัญญาแล้ว พวกเขายังหาตัวแทนที่เหมาะสมไม่ได้
ช่องทางในการติดตามข่าวสาร www.sosep.org/